เกิดเหตุ มือกราดยิงไนต์คลับ “คลับ คิว” (Club Q) ซึ่งเป็นไนต์คลับสำหรับกลุ่มคนรักคนเพศเดียวกัน ในเมืองโคโลราโดสปริงส์ รัฐโคโลราโด ของประเทศสหรัฐในวันเสาร์ (19 พฤศจิกายน) ตามเวลาท้องถิ่น นำมาซึ่งการทำให้มีคนตาย 5 คน และบาดเจ็บอีก 18 คน
“ในตอนนี้ ตำรวจจับตัวผู้ต้องสงสัยเอาไว้ได้แล้ว” ร้อยโทพาเมลา คาสโตร ตำรวจในโคโลราโดสปริงส์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ร้อยโทคาสโตรไม่ได้ให้รายละเอียดว่า ผู้ต้องสงสัยรายดังที่กล่าวผ่านมาแล้วนั้นรวมอยู่ในกลุ่มผู้ที่บาดเจ็บจากเหตุกราดยิงคราวนี้หรือเปล่า
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นกล่าวว่า ตำรวจปฏิเสธที่จะเปิดเผยถึงแรงจูงใจสำหรับในการก่อเหตุกราดยิงเหี้ยมหาญคราวนี้
ดับ 5 ราย มือกราดยิงไนต์คลับ ลูกค้าประจำสยบมือยิงไว้ได้
ชายวัย 22 ปีบุกเข้าไปในไนต์คลับ LGBTQ แห่งหนึ่งในโคโลราโดสปริงส์แล้วก่อเหตุกราดยิง มีคนตาย 5 ราย บาดเจ็บอีก 25 คน ช่วงกลางดึกคืนวันเสาร์ (19 พฤศจิกายน) เกิดเหตุชายวัย 22 ปีบุกเข้าไปใน “คลับคิว (Club Q)” ไนต์คลับ LGBTQ ในโคโลราโดสปริงส์ รัฐโคโลราโด แล้วก่อเหตุกราดยิง กระทั่งมีคนตาย 5 ราย บาดเจ็บอีก 25 คน ก่อนที่ลูกค้าประจำของไนต์คลับจะเจอหน้ากับผู้ร้ายและสยบผู้ก่อเหตุไว้ได้
เอเดรียน วาสเกซ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจโคโลราโดสปริงส์ กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุกราดยิงในคราวนี้เป็น แอนเดอร์สัน ลี อัลดริช อาวุธที่ใช้สำหรับในการก่อเหตุประกอบด้วยปืนไรเฟิล และเจออาวุธปืนอื่นอีก 2 กระบอกตกอยู่ในที่เกิดเหตุ
วาสเกซบอกว่า อัลดริชบุกเข้าไปในไนต์คลับช่วงเวลา 23.55 น. ภายหลังก่อเหตุ มีลูกค้าประจำของไนต์คลับ 2 คนเจอหน้าและต่อสู้กับมือยิง และสามารถควบคุมตัวอัลดริชไว้ได้ ทำให้สถานะการณ์ไม่ร้ายแรงมากไปกว่าเดิม “เราเป็นหนี้บุญคุณพวกเขาอย่างใหญ่หลวง”
เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า ในตอนนี้กำลังสอบปากคำว่าการลงมือก่อเหตุของอัลดริชมีแรงจูงใจมาจากความเกลียดหรือแนวคิดเหยียดเพศหรือเปล่า วาสเกซบอกว่า “คลับคิวเป็นเหมือนสวรรค์ที่ปลอดภัยสำหรับชาว LGBTQประชาชนทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้รับความปลอดภัยในเมืองของพวกเรา สามารถไปที่ไหนก็ได้ในเมืองของพวกเราโดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกทำร้ายหรือถูกปฏิบัติแย่ๆ”
ทางด้านของคลับคิวก็ได้ออกมากล่าวว่า “คลับถูกจู่โจมอย่างไร้เหตุผล” และ “ขอบคุณมากลูกค้าที่กล้าหาญที่สยบมือปืนและยุติการจู่โจมด้วยความเกลียดชังนี้ไว้ได้”
ก่อนเกิดเหตุ คลับคิวคิดแผนจะจัดแจงแสดง รวมทั้งแดร็กบรันช์และแดร็กโชว์ในวันอาทิตย์ (20 พฤศจิกายน) เนื่องในวันระลึกถึงคนผ่านเพศที่ถูกฆาตกรรมจากความเกลียด (Transgender Day of Remembrance) แต่ไนต์คลับแห่งนี้จะต้องปิดให้บริการจวบจนกระทั่งจะมีประกาศเพิ่มอีก
เหตุกราดยิงคราวนี้ชวนให้นึกถึงการก|ราดยิงในปี 2016 ที่ไนต์คลับ LGBTQ ในออร์แลนโด รัฐฟลอริดา ซึ่งมือสังหารเป็นผู้ที่มีแนวคิดรัฐอิสลามสุกโต่ง และได้เอาชีวิตผู้คนไป 49 รายและมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 53 คน
โคโลราโดเป็นรัฐที่มักเกิดเหตุกราดยิงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา เช่น เหตุกราดยิงในโรงเรียนมัธยมศึกษาโคลัมไบน์ในปี 1999 เหตุกราดยิงในโรงภาพยนตร์ที่ออโรราในปี 2012
ส่วนที่เมืองโคโลราโดสปริงส์เอง ก็เป็นสถานที่เกิดเหตุกราดยิงครั้งใหญ่บ่อยมาก เช่น ที่ Planned Parenthood เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2015 ซึ่งทำให้มีคนตาย 3 ราย และในงานสังสรรค์วันเกิดแห่งหนึ่งเมื่อปี 2021 ซึ่งทำให้มีคนตาย 6 ราย จากข้อมูลของ Gun Violence Archive กล่าวว่า เฉพาะในปีนี้มีเหตุกราดยิงมากกว่า 600 ครั้งในสหรัฐอเมริกา
สังเวยแล้ว 5 ศพ! กราดยิงที่ไนต์คลับเกย์
ที่ทำการตำรวจเมืองโคโลราโดสปริงส์ ในรัฐโคโลราโด รายงานการเกิดเหตุกราดยิงภายในไนต์คลับเกย์ชื่อ “คลับ คิว” เมื่อคืนนี้วันเสาร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น นำมาซึ่งการทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 18 คน
ทั้งนี้ ตำรวจจับผู้ร้ายได้ในที่เกิดเหตุ และกำลังสืบสวนอย่างละเอียด เพื่อค้นหาแรงจูงใจ เบื้องต้นยังไม่มีการเปิดเผยว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร ขณะที่เฟซบุ๊กของร้านคลับ คิว ออกคำแถลงประณามเรื่องที่เกิดขึ้นว่า “เป็นความเกลียดชัง” พร้อมทั้งแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของคนตาย และส่งกำลังใจให้ผู้ได้รับบาดเจ็บ ตลอดจนแสดงความรู้สึกยินดี และ ขอบคุณมากกลุ่มลูกค้าในร้าย ซึ่งช่วยกันระงับเหตุ
เกิดเหตุกราดยิงที่ไนต์คลับในรัฐโคโลราโด
สำนักข่าว CNN รายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายกราดยิงที่ร้าน Club Q ซึ่งเป็นไนต์คลับสำหรับกลุ่ม LGBTQIA+ ในโคโลราโดสปริงส์ รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา (19 พฤศจิกายน) ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บอย่างน้อย 18 ราย
พาเมลา คาสโตร เจ้าหน้าที่ตำรวจของโคโลราโดสปริงส์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการสอบสวน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิเสธที่จะพูดถึงแรงจูงใจของการก่อเหตุ ขณะที่ ไมค์ สมัลดิโน หัวหน้าหน่วยดับเพลิงโคโลราโดสปริงส์ กล่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุได้มีการส่งรถพยาบาลเข้าไปในพื้นที่ 11 คัน เพื่อช่วยเหลือเหยื่อจากเหตุกราดยิงหลังจากที่มีผู้โทรเข้ามาแจ้งเหตุผ่านเบอร์ 911 หลายครั้ง